3 วัน...2 คืน ที่ไร่กล้อมแกล้ม พวกเราเรียนรู้เรื่องการผลิตปุ๋ยและ
ฮอร์โมนอย่างละเอียดทุกขั้นตอนเหมือนเช่นเคย ควบคู่ไปกับ
หลักวิชาการ พวกเราจะได้สูตรและความรู้ใหม่ๆ กลับบ้านมาทุกที
ครั้งนี้ก็เช่นกัน เสียดายแทนคนที่มีโอกาส แต่ไม่ยอมไป
วันที่สองที่ไร่กล้อมแกล้ม...เริ่มรู้สึกว่า คลื่นลูกใหม่-ไร่กล้อมแกล้ม
รุ่นนี้ ไม่ธรรมดา จากการพูดคุย พวกเขาแต่ละคนมีประสบการณ์การ
ชีวิตและการทำงานที่น่าสนใจมาก
มีอยู่คนหนึ่ง...ตัดสินใจเลือกเส้นทางการศึกษา ที่ไม่อยู่ในโรงเรียน
หรือมหาวิทยาลัย เพราะคิดว่าการศึกษาที่ดี ไม่จำเป็นต้องเรียนใน
ห้องเรียนก็ได้ หน้าที่การงานที่เขารับผิดชอบหรือแม้กระทั่งแนวคิด
บอกได้เลยว่า "ไร้กรอบ"
เขาบรรยายความรู้สึกที่ได้สัมผัสกับลุงคิมไว้อย่างน่าประทับใจว่า
"ตัวเขาเองเหมือนอยู่ในที่มืด ลุงคิมเป็นเหมือนเทียนที่กำลังส่องสว่าง
นำทางให้เขา" หนังสือการเกษตรทั้งหลายที่เขาเคยอ่าน วันนี้ข้อมูล
เหล่านั้นถูกนำมาจัดเรียงใหม่เหมือนจิ๊กซอว์ และทำให้เขาเข้าใจพืช
มากขึ้น และเขาบอกว่า ที่สุดในชีวิตเขาคือ"มวลชน"
อีกคน...เขายอมรับว่า ตัวเองเป็นพวก "อินทรีย์ตกขอบ" และพยายาม
หาแนวทางที่จะผสมผสานระหว่างเคมีและอินทรีย์ เพราะด้านหนึ่ง
พยายามจะไม่ทำลายสภาพแวดล้อม และอีกด้านหนึ่งต้องการเพิ่มผล
ผลิต พอมาพบแนวทาง "อินทรีย์นำ-เคมีเสริม ตามความเหมาะสม"
ทำให้เหมือนพบทางออก แต่ก็ต้องมานั่งทำความเข้าใจคำว่า "เคมีเสริม"ตามแนวทางนี้ ว่าคืออะไร
คนนี้ก็น่าสนใจ...เป็นคณะกรรมการสมาคมส่งเสริมชาวนาไทย พูดได้ว่า
เป็นคนแรกที่ตอบรับเข้ารับการอบรมครั้งนี้ จากการพูดคุยระหว่างที่ทำ
การอบรม ทำให้ทราบถึงความตั้งใจ และเห็นแนวทางที่จะช่วยให้ชาวนา
สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ ก่อนกลับลุงคิมได้มอบ"ปุ๋ยน้ำระเบิดเทิด
เถิงพร้อมใช้ปริมาณ 100 ลิตร พร้อมด้วยฮอร์โมนน้ำดำอีก 100 ลิตร"
เพื่อใช้ในแปลงนาข้าวของตัวเอง เพราะเจตนารมย์ร่วมกันคือถ้าแนว
ทางนี้ได้ผล พวกเราจะขยายผลสู่เกษตรกรรายอื่นๆ และการที่จะให้พวก
เขายอมรับก็ต้องทำแปลงของเราให้เห็นผลชัดเจนก่อน ถือว่าเป็น
ภาระกิจที่หนักหนาสาหัสเอาการทีเดียว พวกเราฝากความหวังและ
ขอเป็นกำลังใจให้พี่วิสุธ ฯ ปฏิบัติภาระกิจนี้ให้สำเร็จ
อีกสักคน...คนนี้เป็นแฟนคลับวารสารของลุงคิม ผ่านชีวิตการทำงาน
มาหลายอย่าง ตอนนี้ผลิตน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ จากการพูดคุยสรุป
ได้ว่า "เป็นคนที่มีความมานะ พยายาม อดทน และมุ่งมั่นกับทุกๆอย่างที่ทำ"
นี่เฉพาะแค่คน ที่มีโอกาสได้คุยด้วยเท่านั้น สงสัยว่าเวลา 3 วัน 2 คืน
อาจจะน้อยไป